ทำความเข้าใจกับไฟล์วีดีโอเบื้องต้นก่อน เรียนตัดต่อวีดีโอ

ก่อนที่จะเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับการ ตัดต่อวีดีโอสิ่งที่สำคัณเราต้องรู้และเข้าใจประเภทและความแตกต่างของ File แต่ละ File ที่เกี่ยวข้องกับ Video

เพื่อที่จะได้นำมาประยุกต์ใช้อย่างถูกต้อง และนำไปใช้โดยไม่ผิดวัตถุประสงค์ของงาน

Filename extension

AAF,3GP,GIF,ASF,AVCHD,AVI, CAM,DAT,DSH,FLV ,M1V MPEG-1 – Video,M2V MPEG-2 – Video,FLA,FLR,SOL ,M4V,Matroska (.mkv .mk3d .mka .mks)

,WRAP,MNG,QuickTime (.mov) ,MPEG (.mpeg, .mpg, .mpe),MPEG-4 ,MXF,ROQ,NSV ,Ogg,RM,SVI ,SMI,SWF ,WMV,

ชื่อไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ด้านบนหลายท่านคงจะคุณเคยกันดีในหลายๆไฟล์ จากอดีตจนถึงปัจจุบันสื่อหรือ Media ที่เรานำไปเปิดตามบ้านที่เราคุณเคยเช่น ม้วน VDO-VHS , VCD ,DVD ,Bluray(ในหัวข้อนี้ผมไม่ขอกล่าวถึง การบันทึกข้อมูลลงบนสื่อที่เป็นในรูปแบบม้วน Video จะกล่าวถึงในหัวข้ออื่น)

จะเห็นได้ว่าที่เราคุณเคยกัน ก็จะมี VCD ,DVD, และ Blu-ray ในสื่อทั้ง 3 ประเภทนี้ในแผ่นจะประกอบด้วย File ดังนี้

ประเภทสื่อ File Extention Video Compression Audio Compression Resolation Bitrate
VCD-Video *.DAT MPEG -1 MP1 NTSC 352×240
PAL 352×288
1150kbps
SVCD-Video MPEG -2 MP1 NTSC 480×480
PAL 480×576
2000kbps
DVD-Video *.VOB MPEG -2 MP1, MP2, AC3, DTS, PCM NTSC 720×480²PAL 720×576² 7000kbps
DVD-HD VideoAV *.m2ts H264VC1MPEG2 DTS-HD, EAC3, TrueHD, AC3, DTS, PCM 1280×720
1920×1080
30Mbps
CHD(TM) Video *.m2ts H264VC1MPEG2 DTS-HD, EAC3, TrueHD, AC3, DTS, PCM 1280×720
1920×1080
30Mbps

รูปแบบของ file ด้านบนนั้นยังไม่ละเอียดพอ เป็นเพียงแค่มาตราฐานหรือพิ้นฐานที่ต้องทำความเข้าใจว่า เมื่อเราตัดต่องานเสร็จเราจะ Export File ออกเป็น File ชนิดใดเพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งานและ การสร้าง Project งานสำหรับการตัดต่อ

จะได้ตั้งค่าให้ถูกต้องกับการใช้งานจริงทำให้ช่วยลดการทำงานที่หนักของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ในปัจจุบัณนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น ผู้คนนิยมใช้ในรูปแบบของ File มาเปิดดูตามเครื่องเล่นต่างๆร่วมทั้งมือถือด้วย File ที่คุ้นเคยกันมีดังนี้(*.mkv,*.mp4,*.wmv,*.avi,*.mov,*.FLV) ไฟล์ดังที่กล่าวมามีความแตกต่างกันมีความสามารถต่างกัน  แต่ Compression หรือ เทคโนโลยี่การเข้าระหัสเหมื่อนกัน ต่างตรงที่จุดตำสุดและสูงสุดที่รองรับได้

Name and file extension, if different Matroska (.mkv, .mk3d, .mka, .mks) QuickTime (.mov, .qt) Advanced Systems Format (.asf, .wma, .wmv) MP4.mp4, .m4a, .m4p, .m4b, .m4r .m4v FLV (Flash Video).flv, .f4v, .f4p, .f4a, .f4b
Developer CoreCodec, Inc. Apple Microsoft MPEG Adobe Systems
License free   มีลิขสิทธ์ มีลิขสิทธิ์ มีลิขสิทธิ์
Variable Audio bit Rate ใช่ ใช่ ใช่ ใช่ ใช่
Variable frame rate ใช่ ใช่ ใช่ ใช่ ใช่
Chapter ใช่ ใช่ ใช่ เฉพาะ Quictime และ Nero digital ไม่
Caption (Subtitle) ใช่ ใช่ ใช่ ttxt,VobSubs ไม่
Video format Microsoft (TM) Video Codec Manager (VCM)Video, raw uncompressed video framesMPEG4 ISO Profile VideoH264Microsoft (TM) MPEG4 V3MPEG 1MPEG 2Real Video(TM)Theora

 

Apple ProRes

DivX5, XviD, FFMPEG

3GP and 3G2Animated GIFAnimationApple ProResAudio Video Interleave (AVI)DVCinepakComponent VideoGraphics

 

H.261

H.262/MPEG-2 Part 2[7]

H.263

H.264/MPEG-4 AVC

Microsoft Video 1

MPEG-1

MPEG-4 Part 2

Motion JPEG

Pixlet

Planar RGB

Qtch

QuickTime Movie

QuickTime VR

Sorenson Video

MPEG-4 V1-3Windows Media Video7-10 MPEG-2 Part 2, MPEG-4 ASP, H.264/MPEG-4 AVC, H.263, VC-1, Dirac Sorenson, VP6, Screen Video, H.264/MPEG-4 AVC
Audio format MPEG Audio 1, 2, 2.5 Layer IIIMPEG Audio 1, 2 Layer IIMPEG Audio 1, 2 Layer IPCM Integer Big EndianPCM Integer Little EndianFloating Point, IEEE compatibleMPC (musepack) SV8(Dolby™) AC3ALAC (Apple Lossless Audio Codec)

 

Digital Theatre System

Lossless

Vorbis.

FLAC

Realmedia Audio codecs

Microsoft(TM) Audio Codec Manager (ACM)

AAC Profile Audio

QuickTime audio codecs

The True Audio

WavPack lossles

Advanced Audio Coding (AAC)AMR NarrowbandApple LosslessAu file formatAudio Interchange File Format (AIFF)A-lawCore Audio FormatMACEMicrosoft Adaptive DPCM (MS ADPCM)

 

MIDI

MPEG-1 Audio Layer 3 (MP3)

Pulse-code modulation (PCM)

QCELP (Qualcomm PureVoice)

QDesign

Waveform Audio File Format (WAV)

μ-law

ของ Windows Media Audio MPEG-2/4 (HE)-AAC, MPEG-1/2 Layers I, II, III (MP3), AC-3, Apple Lossless, ALS, SLS, Vorbis MP3, Nellymoser, ADPCM, Linear PCM, AAC, Speex
Streaming ใช่ ใช่ ใช่ ใช่ ใช่
3D ใช่ ใช่ ไม่ ใช่ ไม่
เครื่องเล่น ใช่ ใช่ ใช่ ใช่ ไม่

จากตาราง ก็จะทำให้เห็นคุณสมบัติและความแตกต่างกันออกไป ศึกษาดีๆจะเห็น ว่า MPEG-4 และ H264 จะมีในเกือบทุกรูปแบบ File ยกเว้น WMV H264 ก็คือ MPEG4-Part 10 หรือ AVC (Advanced Video Coding) นั้นเอง รูปแบบของ File หรือ Extension นั้นมีมากกว่าที่ผมนำเสนอ ในที่ผมนำเสนอตรงนี้

คือที่เราคุ้นเคยและพบเห็นเป็นประจำ เรียกง่ายๆว่าอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่ทั้งหมดแล้วนั้นFile ชนิดใดก็ตาม จะอยู่ในโครงสร้างลักษณะดังต่อไปนี้

ในโครงสร้างผมสรุปออกมาจากความคิดส่วนตัวแล้วก็สร้างโมเดลขึ้นมาทำให้เข้าใจง่ายขึ้น ผิดถูกก็ต้องขออภัย

ใจกลางเลยผมเรียกว่า Extension รูปแบบของ File ต่างๆ ที่เรารู้จักกันเช่น *.avi *.mp4 *.mpg

Extension แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัง

1. Video Codec (video compression,video decompression)

2.Audio Codec (audio compression,audio decompression)

3.More Function ผมเรียกว่าลูกเล่นเสริม

Video Codec คือ เรียกตัวเข้าระหัสและถอดระหัส เช่น H264 , MPEG-4 ,Cinepak,Sorenson,divx,xvid, (ร่วมถึง Uncompression คือไม่เข้าระหัส)

เพราะฉนั้นเราจะเห็นว่า File แต่ละประเภทเข้าถึง Codec ได้มากน้อยต่างกัน และที่สำคัญ Codec แต่ละตัวมีคุณสมบัติต่างกันเช่น Resolation ต่างกัน Bitrate ต่างกัน FameRate ต่างกัน ถ้าเป็น Codec เก่าๆ เช่น MPEG 1 Resolation สูงสุด 352×288 bitrate 1150 kbps พอมาเป็น MPEG2 ก็สูงขึ้นเป็นอันดับๆไป เรียกง่ายๆว่าอะไรมาใหม่สุดอันนั้นละเอียดสุด

การ Compression ยังมีข้อดี อีก 1 เรื่องคือ ทำให้ขนาดของ File Video เล็กลงแต่ยังคงความชัดอยู่นั้นเอง

Audio Codec ก็มีหน้าที่เช่นเดี่ยวกันกับ Video Codec

More Funtion ที่ผมว่าก็คือลูกเล่นเสริม อย่างเช่น สามารถ Add Subtitle ได้ ทำ Streaming ได้ Support 3D ,กำหนด Chapter ได้เป็นต้น

พอถึงตรงจุดนี้ต้องเกิดคำถามแน่ๆ

ทำไมต้องมีหลาย Codec ? เหตุที่มีหลาย codec อับแรก ระบบปฏิบัติการทางคอมพิวเตอร์ มีหลายระบบ ต่างคนต่างแข่งขันกัน รูปแบบการใช้งานที่หลากลายขึ้น เช่นการนำมาใช้มือถือจึงจำเป็นต้องทำให้ File เล็กลงแต่ความละเอียดยังคงอยู่ เมื่อขนาด File ที่เล็กลงจึงทำให้สามารถส่ง File ไปยังเครื่อง Player ได้เร็วขึ้น

ตอนนี้เลยออกไปไกล มันเลยเรื่องของการตัดต่อไปแล้ว ตอนนี้เรารู้จัก File และคุณสมบัติของ File พูดถึงการตัดต่อเราจะ.ใช้ File อะไรในการตัดต่อละ

File ในการตัดต่อนั้นขึ้นอยู่กับ โปรแกรมที่เราใช้ว่า Support file อะไรบ้างจะใช้ตามนั้น แต่มีข้อแม้อยู่ว่า File ที่ถูก Compression ตอนตัดต่อจะทำให้เครื่องช้า(สำหรับเครื่องที่ไม่เร็วพอนะ อาจจะทำให้ช้ามาก)

แต่ในปัจจุปัน Technology ทางด้าน Hardware ไปไกลมากจนสามารถตัดต่องาน ด้วยความเร็วที่เกิน Realtime กว่าหลายเท่า

มีจุดสังเกตุว่า กล้องถ่ายวีดีโอส่วนใหญ่จะใช้เทคโนโลยี่ ชื่อ AVCHD ภายใต้ชื่อนี้ Codec ของมันก็คือ MPEG-4 AVC/H.264

ผมเคยไปทำงานในบริษัทที่หนึ่งทำอะไรกันแปลกๆ เราบอกเขาก็ไม่ฟัง ก็คือว่า ไปถ่ายงานด้วยกล้อง Sony File ที่ได้ก็ถูกเข้าระหัสด้วย MPEG-4 AVC/H.264

แต่เหลือเชื่อตรงที่ ทั้งบริษัท เอา File พวกนี้มานั่งแปลงเป็น Uncompression แล้วตัดต่อ จาก File 8 GB กว่า เป็น 60 กว่ากิก จนบริษัทนั้นมี Harddisk เป็นตู้เพื่อเก็บ File งานพวกนี้

เหตุผลที่เขาบอกผมคือตอนตัดมันเร็ว (ผมคิดในใจนะที่นั่งแปลง File กว่าจะได้ตัดงานก็ครึ่งวันแล้วทำไมไม่ตัดเลยงานจะได้เสร็จเร็วๆ) บอกว่าช้าผมก็บอกว่าทำไมไม่ซื้อ VGA Card แรงๆ จะได้ใช้ Cuda มาประมวณผลแทน

ตอบกลับมาอีก มันก็ยังใช้ได้อยู่แล้วงบก็ไม่มี แต่มีเงินซื้อ Harddisk ถ้าจะบ้า

มันเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งที่มีมานานว่า ตัดงานที่เป็น uncompress จะเร็วและงานจะออกมาสวยกว่า เหตุผลนี้ถูกเพราะสมัยก่อนเครื่องคอมไม่ได้เร็วมากเหมื่อนปัจจุบัน และ ไม่มี Codec ที่สุดยอดเหมื่อนในปัจจุบัน

คิดง่ายๆขนาดกล้องตอนถ่ายออกมายังบันทึก
MPEG-4 AVC/H.264 ก็ต้องเชื่อมันนะครับว่ามันคมชัดและละเอียดแล้ว

ทานที่ได้อ่านก็คงจะได้ความรู้ไม่มากก็น้อยก่อนที่จะเริ่ม เรียนตัดต่อวีดีโอ มันอาจจะไม่สมบูรณ์ครบถ้วนรายละเอียดย้อยๆผมก็เขียนในหัวข้ออื่นๆต่อไปนะครับ

5 comments for “ทำความเข้าใจกับไฟล์วีดีโอเบื้องต้นก่อน เรียนตัดต่อวีดีโอ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *